3 Days to Fly: วันรวมญาติ

วันนี้ก็ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง คิดว่าถ้าใครมีปฏิทินก็น่าจะรู้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน นั่นก็คือ วันอาทิตย์นั่นเองงง จะบ้าเรอะ!!! วันสารทจีนต่างหากปัดถ่อววว แล้วก็อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าครอบครัวของผมก็มีเชื้อสายจีน อากงของผมก็จะไปไหว้สารทจีนที่บ้านเหลากง ผมก็เลยถือโอกาสแวะไปหาเหลากงและลาญาติฝั่งแม่ทุกๆคนที่นั่นเลย

พอไปถึงปุ๊บ ความรู้สึกที่ผมมีเมื่อผมเห็นบ้านเหลากงคือ ปกติครับ ใช่ครับ คือรู้สึกเฉยๆจริงๆ คือมันไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลย บ้านเหลากงเคยเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยน มันต่างกับตอนที่ผมเคยไปบ้านเก่าของผมเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่มันเปลี่ยนแบบเห็นได้ชัดจนทำให้เราประหลาดใจ แต่นี่ คือแบบ มันเหมือนเดิมทุกอย่าง เลยไม่มีความรู้สึกอะไรเข้ามาในหัวเลย เดจาวูชัดๆ -.-

บ้านของเหลากง เป็นบ้านหลังใหญ่ริมคลอง ซึ่งเวลาจะเข้ามาทีนึงต้องจอดรถไว้บ้านญาติที่ติดถนนแล้วนั่งเรือเข้ามา เห็นแบบนี้หลังใหญ่พอดูเลยทีเดียว

เมื่อเข้ามาในบ้านเหลากง ก็มีลูกหลานของอากงที่เดินทางกลับมาหาอยู่ข้างในบ้านตามปกติ ซึ่งผมไม่เคยจะไล่ลำดับญาติได้ซักที ทั้งเหลาโก เหลาเจ็ก ไหนจะมีเด็กที่อายุน้อยกว่าแต่เราเรียกว่าอี๊ (น้า) อาจเป็นเพราะเหลากงมีลูกหลานเยอะละมั้ง ขนาดรุ่นหลานยังมีแล้ว 36 คน แล้วผมรุ่นเหลน ตอนนี้มีถึงโหลน นานแล้ว ผมสตั้นทุกครั้งที่พยายามจะนึกว่า คนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเราหว่า ครั้นจะไปนึกต่อหน้าเดี๋ยวเค้าก็จะงอนหาว่าจำไม่ได้อีก (ก็มันจำไม่ได้จริงๆนี่หว่าาา -*-) ผมเคยคิดจะให้ทำแผนผังลำดับญาติด้วยนะ แล้วพอมีงานแบบนี้ทีก็ไล่สวัสดีทีละคน ใครไหว้แล้วก็ติ๊กถูกไว้อะไรแบบนี้ 5555 แต่ถึงแม้วันนี้จะมีเครือญาติมากันเยอะ แต่ก็ยังไม่เยอะเท่ากับวันเกิดเหลากงแต่ละปี ที่ลูกหลานเหลนโหลนเหลากงจะมากันแทบพร้อมหน้า บางก็มีคนไม่รู้จักเนียนมาด้วยพลังอำนาจหูฉลาม -.-

จากนั้นก็ได้เวลาทำงาน ทุกคนช่วยกันนำของที่เตรียมมาจากบ้านตัวเองเพื่อมาไหว้สารทจีน ทั้งขนม น้ำผลไม้ หมูเห็ดเป็ดไก่ และอื่นๆอีกมากมายที่ผมไล่เรียงไม่หมด คือมันละลานตาไปหมด ถึงขนาดวางบ่นเสื่อ 2 ผืนยังเกือบล้น (นี่ขนาดรวมๆของอย่างเดียวกันไว้ด้วยกันนะ) พอเสร็จแล้วทุกคนก็ทยอยมาไหว้ กว่าจะครบก็ใช้เวลาพอสมควร ตอนที่ผมไหว้ก็มีเก้ๆกังๆบ้างด้วยความที่ไม่ค่อยได้ทำเรื่องที่เป็นพิธีรีตองมาบ่อยนัก

หลังจากลาของไหว้เสร็จเรียบร้อย และแล้วก็ถึงเวลาทานอาหาร ซึ่ง ณ วินาทีในใจผมคิดอยู่อย่างเดียวคือ "อะไรก็ได้ๆ" 5555 เพราะมันน่ากินทุกอย่างเลย สมาชิกแต่ละคนก็ล้อมวงกินข้าวและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ แน่นอนว่าเรื่องที่ผมได้ไปเรียนต่อก็อยู่ในวงสนทนาด้วย หลายๆคนก็แสดงความยินดีกับผม แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ว่าน้ำเสียงของบางคนมันไม่ใช่น้ำเสียงของการร่วมแสดงความยินดี (หวังว่าผมคงคิดไปเองจริงๆนะ) บางคนที่เคยไปต่างประเทศหรือส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ก็มีการขู่เบาๆในหลยๆเรื่อง เช่น มาม่าแพงมาก ให้ตุนไปเยอะๆ หรือจะเป็นพวกค่าใช้จ่ายที่อาจจะไม่พอ ซึ่งบางอันผมก็ไม่คิดว่ามันจะจริง แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆคนก็เป็นญาติโกโหติกาเราทั้งนั้น ถึงจะไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องเป็นอะไรกันบ้างก็เหอะ ผมก็คิดว่าทุกคำพูดที่ทุกคนพูดจะเป็นประโยชน์แก่ผมในวันหน้าไม่ทางใดก็ทางนึงแหละเนอะะะ ^^

สุดท้ายก่อนกลับ ผมก็แวะเข้าไปไหว้เหลากงที่ห้อง เหลากงเหมือนจะจำผมไม่ได้ ญาติคนนึง (น่าจะเป็นเหลาโก ถ้าลำดับญาติผิดขอโทษนะครับ T/T) ก็บอกว่าผมเป็นลูกของ...(ขอสงวนชื่อแม่ผมนะครับ) เหลากงก็ยังจำไม่ได้ แต่พอบอกว่าเป็นหลานของอากงผม เค้ากลับจำได้แฮะ 5555 แล้วจากนั้นผมก็กลับมาที่บ้านอากงในกรุงเทพเหมือนเดิม

ไม่น่าเชื่อว่าเวลาวันนึงจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ อีกแค่ 2-3 วันผมก็จะต้องเดินทางแล้ว ถ้าถามว่าพร้อมมั้ย ผมก็คงตอบว่า "ไม่พร้อม" จริงๆ ทั้งกายและใจ ของก็ยังเตรียมไม่เสร็จดี ไหนจะห่วงทางครอบครัว กลัวการเดินทางโดยเครื่องบินครั้งแรก แถมต้องไปคนเดียวอีกต่างหาก ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งนอนไม่หลับ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะรู้สึกว่า "พร้อม" ซะที...

และแล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดี...

Frozenize

View posts by Frozenize
A random guy, doing random stuffs that he randomly feels passionate about.

Leave a Reply

Scroll to top