ทันทีที่ลงมาจากเครื่องบิน ผมสัมผัสได้ถึงอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความโล่งใจที่มาถึงด้วยความปลอดภัย ความสวยงามของสนามบินที่ชนะขาดสุวรรณภูมิแน่นอนถ้าวัดที่ความร่มรื่น และอีกหนึ่งสิ่งที่สัมผัสได้ก็คือ ความเย็นครับ อากาศตอนที่มาถึงอยู่ที่ประมาณ 16-17 องศา (ตามการรายงานของกัปตัน) บวกกับลมเย็นๆแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นดีจัง > < นี่ขาดเป็นหน้าร้อนของที่นี่นะเนี่ย 5555 ไม่ถึงนาทีก็มีรถสนามบินมารับจากเครื่องไปส่งตรง Immigration ตอนนั้นก็เกร็งนิดหน่อย เค้าถามว่าจะมาทำอะไร เรียนที่ไหน ผมก็ตอบตามตรงไป แค่นี้ก็ผ่านมาได้ปกติ
หลังจากนั้นก็เป็นการรับกระเป๋า ซึ่งบอกตรงๆเลยว่า หลง 5555 ผมก็มัวแต่ดูว่าสติกเกอร์มันเขียนอะไร ซึ่งมันไม่ได้บอกว่ามันจะลงมาสายพานไหน มารู้เอาทีหลังว่ามันจะขึ้นบอร์ดไว้ว่าสายพานไหนเที่ยวบินไหน ของผมเป็นสายพานที่ 15 ก็เดินไปหยิบแบบตามๆเพื่อนร่วมไฟลต์ไปนั่นแหละ ต่อมาก็เดินผ่านตรงศุลกากรว่ามีของต้องสำแดงรึเปล่า ผมก็เดินเข้าช่องที่ไม่แสดงของแบบชิลๆ แต่สายตาเจ้าหน้าที่ที่จ้องมานี่ทำเอาเสียวสันหลังเหมือนกัน
ผ่านศุลกากรออกมาก็เป็นพื้นที่ที่เพื่อนๆญาติมิตรหรือไกด์มารอรับผู้โดยสาร ซึ่งผมก็เจอกับคนที่มารอรับผม นั่นก็คือพี่ไนท์ เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นนักเรียนทุน ODOS รุ่น 1 และพี่เตย รุ่นพี่ ODOS 4.1 ที่คุยกันเมื่อ 6 เดือนก่อนจนสนิทและลืมให้ความเคารพไปละ 5555 จากนั้นเราก็ไปนั่งดื่มกาแฟกันแป๊บนึง (อภินันทนาการจากพี่ไนท์ 5555) แล้วก็คุยกันนิดหน่อย
จากนั้นเราก็แวะซื้อซิมการ์ดสำหรับใช้ในเนเธอร์แลนด์ (อภินันทนาการจากพี่ไนท์เช่นกัน) ซึ่งซิมที่พี่เค้าเลือกให้ก็คือซิมของ Lebara ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเจ้านี้ โดยซิมนี้เปนซิมเติมเงิน แถมค่าโทรไว้ 5 ยูโร กับเน็ตอีก 50 MB (เน็ตเยอะจังงง แหม่ เปิดยูทูป 3-4 นาทีก็หมดละ -.-) แต่เอาเถอะ ถึงเวลาก็ใช้เน็ตหออยู่ดี
ซิมโทรศัพท์ใหม่ของผม ใครอยากโทรก็โทรมานะ 5555
และแล้วรถสถานทูตก็มารับผมกับพี่ไนท์ โดยมีจุดหมายอยู่ที่เมือง Venlo ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 2 ชั่วโมง (ยังไม่จบอีกเหรอออ ยังไม่หายเมาเครื่องบินเลย T^T) แต่พี่เตยขอแยกกลับไปก่อน โดยก่อนไปพี่แกยัดอะไรใส่กระเป๋าเป้ผมมาก็ไม่รู้ แกกำชับนักหนาว่าให้ไปเปิดที่หอ ตอนถึงหอผมก็เปิดดู เห้ยยย พี่แกเขียนการ์ดกับยัดช็อกโกแล็ตมาให้หว่ะะะ ซึ่งเลยทีเดียว ไม่นึกว่าพี่แกจะใจดีผิดกับหน้าตา ท่ดๆ 5555
ของที่พี่เตยยัดใส่กระเป๋ามา เหยดดด ทำซึ้งกับเค้าก็เป็นแฮะ ปกติเถื่อนใส่ตลอด
และแล้วผมกับพี่ไนท์ก็มาถึง Venlo จนได้ โดยที่นี่เราได้นัด Buddy ของผมไว้ เธอชื่อว่า Julia Suhren เป็นคนเยอรมันที่เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกับผมแต่อยู่ปี 2 (เค้าเดินทางไปกลับเยอรมัน-เนเธอร์แลนด์ทุกวันเลยแฮะ อย่างว่าแหละ เมืองมันติดกัน) ซึ่งเค้าจะเปนคนช่วยเหลือผมในช่วงแรกของการอยู่ที่นี่ และเราก็จะมาเซ็นสัญญาเช่าหอกัน
แต่ตอนที่ไปถึงเหมือนว่าทางสำนักงานจะยังไม่ว่าง พี่ไนท์ก็เลยชวนพวกเราไปที่ร้านอาหารแขกตรงข้างๆสำนักงานเพื่อหาอะไรกิน แต่มันเป็นภาษาดัตช์หมดเลย = =" พี่ไนท์ก็เลยสั่งมาให้ผมเมนูนึง เป็นเนื้อแกะกับมันฝรั่งกับสลัดซ้อนๆกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร มันก็อร่อยดีนะ แต่กินยากมากกก ให้ใช้มีดกับส้อม กะอาหารในกล่องฟอยด์ = =" แล้วซักพักนึงพี่ไนท์ก็ขอลากลับไปก่อน ทิ้งผมไว้กับจูเลียแค่สองคน หลังจากกินเสร็จเราสองคนก็ไปที่สำนักงานเพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งรายละเอียดของสัญญาก็ไม่มีอะไรมาก ภาษาดัตช์ทั้งหมดเช่นกัน (เชื่อละว่าภาษาดัตช์สำคัญจริงๆ - -) แต่เค้ามีฉบับแปลมาให้เราอ่านด้วย เราก็เซ็นตามปกติ
หน้าตาของแฟ้มสัญญา ดูดีเหมือนกันแฮะะะ
จากนั้นเราก็เดินไปที่ธนาคาร ABN-AMRO เพื่อจะไปเปิดบัญชี แต่เค้าบอกว่าต้องให้ติดต่อทางมหาวิทยาลัยเอา สุดท้ายผมก็เลยแยกทางกับจูเลียเพื่อขึ้นมาที่หอและจัดการข้าวของให้เรียบร้อย ระหว่างทางจูเลียก็พาผมแวะเข้าร้าน etos เพื่อซื้อกระดาษทิชชู่ไว้ใช้ในห้องน้ำ (ที่นี่ไม่ใช้สายยางฉีดก้นตามคาด มีเรื่องให้ปรับตัวเพิ่มอีกอย่างละะะ) ด้วยสนนราคา 8 ม้วน 4 ยูโร!!! OMG จะบ้าตาย อะไรจะแพงขนาดนั้น =[]= จะไม่ซื้อก็กระไรอยู่ บัดดี้อุตส่าห์พามา แต่คุณภาพมันก็โอเคอยู่นะ เป็นม้วนใหญ่ดูทำความสะอาดอะไรได้ ไม่เหมือนพวกตามห้างในไทยที่บางจนเหมือนไม่ได้ใช้อะไรเลย =.,=
ดูกันให้ชัดๆ ทิชชู่ 2 แพ็ก 8 ม้วน 4 ยูโร จำไว้นะ etos-.-
ในที่สุดก็มาถึงที่พักล้าววว ที่อยู่ของผมคือ Koninginnesingel 28 เป็นที่พักที่อยู่ชั้น 4!!! (นึกสภาพผมแบกกระเป๋า 18 โลกะกระเป๋าเป้อีก 8 โลขึ้นชั้น 4 สิครัชชช T^T) ส่วนบรรยากาศเป็นไงให้รูปอธิบายตัวมันเองดีกว่าเนอะะะ ^^
สภาพห้องรับแขก+กินข้าวที่ต้องใช้รวมกัน มีเตารีดให้ด้วยนะเออ
ต่อมาก็ห้องน้ำ ใช้รวมกันเช่นกัน มีเครื่องซักผ้าฝาหน้าให้ด้วย แต่ปุ่มเป็นภาษาดัตช์ =.,=
ห้องส้วมที่แยกออกมา ขนาดเล็กจนอึดอัดเบาๆ และคอห่านที่ไม่ได้อยู่ด้านท้ายเหมือนที่คุ้นๆตาในไทย
สภาพห้องครัว มีเตากับตู้เย็นพร้อม ภาชนะก็มีให้ แต่อุปกรณ์อย่างหม้อ กระทะ โดยเฉพาะกาน้ำร้อนนี่ สนิมเขรอะะะ -3-
บรรยากาศในห้องนอนหลังจัดเสร็จแล้ว จะบอกว่าต้องกางผ้าปูเปลี่ยนปลอกหมอนเองหมด -*-
บรรยากาศริมหน้าต่างตอน 3 ทุ่ม!!! ย้ำ 3 ทุ่มนะครัชชช ยังสว่างอยู่เลย ไม่แปลกใจทำไมรุ่นพี่นอนกันดึกจัง
ของที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้ที่สถานทูตแล้วพี่ไนท์เอามาให้
ของที่เหล่าเพื่อนๆฝากมาให้จากที่สนามบิน วิตามินซีของท่าน แสตมป์เซเว่นของแสตมป์ ปิ๊กกีตาร์ของม่อน ปากกาของเพชร พลาสเตอร์ของใครไม่รู้ และรูปทุกๆคนยังอยู่ดีนะ ขอบคุณมากจริงๆ
หลังจากเหนื่อยมาตั้งแต่ตอนอยู่บนเครื่องบิน พอจัดของเสร็จก็ได้เวลานอนแบบเต็มๆซะที เป็นการนอนคืนแรกในที่ใหม่ๆ คืนแรกกับบรรยากาศใหม่ๆ คืนแรกในเวนโล คืนแรกในเนเธอร์แลนด์ 🙂
และแล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดี...